Support
Jolieofficial
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

การเลือกผ้าในการตัดสูท

Jolie.info@gmail.com | 15-02-2558 | เปิดดู 4101 | ความคิดเห็น 0

ว่ากันว่า เสื้อสูทที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปทรงเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องปลีกย่อยอีกมากที่ควรคำนึงถึง หนึ่งในนั้นคือเรื่องเนื้อผ้า ไม่ทราบว่า ระหว่างเนื้อผ้าแบบวูล (Wool) กับไม่วูล แบบไหนเหมาะกับคนไทยมากกว่ากัน ที่สำคัญเวลาเลือกเนื้อผ้าต้องคำนึงถึงปัจจัยอะไรเป็นพิเศษบ้าง ถ้าเราเลือกสูทผ้าวูล ควรเลือกความหนากี่เปอร์เซ็นต์ ความหนาแต่ละอย่างเหมาะกับการใส่โอกาสไหนบ้าง และการดูแลรักษาต้องทำอย่างไร เราจำเป็นต้องลงทุนกับเรื่องเนื้อผ้าของสูทนี้มากน้อยแค่ไหน ?

ผ้าวูล (Wool) หรือผ้าขนสัตว์ คือสุดยอดคุณภาพของผ้าตัดสูท ที่ทำให้เราดูดีที่สุด ทั้งในแง่ความกลมกลืนกับรูปแบบการตัดเย็บ ความอบอุ่นหรือเย็นสบาย และภาพลักษณ์ที่ดูดีมีระดับ

ผ้าวูลอยู่ได้กับอากาศทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมีชื่อเรียกว่า Mohair, Gabardine, Marino หรือ Serge หรือมีกรรมวิธีปลีกย่อยอย่างไร ความดีของผ้าวูลคือเป็นธรรมชาติ ต่อให้ผ้าหนาอย่างไร อากาศก็ผ่านเข้า-ออกได้ หรือที่มักพูดว่า ผ้าชนิดนี้ Breathe หรือ หายใจได้ คุณสมบัตินี้สร้างความแตกต่างระหว่างผ้าวูลกับผ้ากึ่งวูลผสมใยสังเคราะห์ ยิ่งผสมใยสังเคราะห์มาก ก็ยิ่งร้อนและไม่ทิ้งตัว

คุณภาพ (ซึ่งมิใช่ความหนา) ของผ้าวูลมีกำหนดตั้งแต่ 80 หน่วยไปถึง 180 หน่วย เลขยิ่งสูง ผ้ายิ่งเบาและละเอียดมาก เนื้อผ้าละเอียด ทิ้งตัวง่าย ไม่เกิดรอยยับ แม้กองไว้หลังรถหรือสวมใส่ทั้งวัน พอเข้าไม้แขวนไม่นานก็คืนตัว รอยยับที่ข้อพับศอกก็ไม่เห็น ในเมืองไทยผ้าวูลเนื้อระหว่าง 110 ถึง 120 ถือว่าเป็นราคาที่กำลังดี

  เมื่อพิจารณาเพียงอัตราส่วนผสมระหว่างเนื้อผ้าวูลกับเนื้อผ้าสังเคราะห์ (Polyester) เช่น Wool 70%, Polyester 30% 

ผ้าวูลดีๆ ทำให้สูทใช้งานได้ไกลนับสิบปี มีข้อแม้ว่ารูปร่างต้องไม่เปลี่ยน ต้องเก็บรักษาสูท

ไว้อย่างดี อย่างไรก็ดี ความคุ้มทุนของสูทจากผ้าวูลดีๆ มิได้อยู่ที่ความคงทนและสวยอมตะเท่านั้น หากแต่อยู่ที่เรื่องฐานานุรูปในสังคม Look หรือภาพลักษณ์ของผู้สวมใส่ ดังนั้น ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับภาพลักษณ์ เช่น พิธีกรรายการทีวีหรือเวที ที่ปรึกษาธุรกิจหรือบรรดาโค้ชนักธุรกิจ นักการเงิน อาจสนใจจ่ายแพงกว่า เพราะสูทผ้าวูลดีๆ สร้างความประทับใจได้เร็ว

ผ้าวูลคุณภาพสูงทำให้สูททิ้งตัวได้สวย ตั้งแต่หัวไหล่ ชายเสื้อสูท และปลายขากางเกง (สามจุดหลักที่ผู้สวมใส่ต้องคำนึง) ไม่ปรากฏรอยตะเข็บให้เห็นชัด เมื่อผ้าทิ้งตัวดี ก็จะลู่เพรียวไปตามหุ่นของผู้สวมใส่ได้ดี

จะลงทุนแค่ไหน หากช่างเสื้อขาดความรู้ความชำนาญ ผ้าก็ไร้ค่า หากไม่เข้าใจเรื่องเนื้อผ้ากับรูปแบบและรูปร่าง ผ้าแพงๆ ก็อาจส่ง Look ราคาถูกได้ ดังนั้น การเลือกผ้าและสูท ควรพิจารณาหลัก 3ประการดังนี้

สูทดีอยู่ที่ช่างดี เลือกช่างที่มีความรู้ ประสบการณ์ และรู้จักวิธีใช้ชีวิตกับการใส่สูท ช่างต้องรู้กว้างว่ากลุ่มอาชีพและสังคมใดชอบใช้รูปแบบและเนื้อผ้าใด ในระดับสากล รู้จักแนวโน้มและแหล่งผลิตผ้าชั้นนำของโลก อีกทั้งมีมนุษยสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างแน่นแฟ้น ความคุ้นเคยและถูกคอกันจะทำให้งานออกมาดี

เลือกเนื้อผ้าที่เหมาะ – มิใช่เลือกเพราะเนื้อผ้านั้นดีที่สุด แต่ต้องเหมาะสมที่สุดกับวิถีชีวิตประจำวันและอุปนิสัย ทั้งในขณะที่สวม และในเรื่องเก็บ-แขวน-ซัก-รักษา อย่าลืมว่า กระบวนการแต่งตัวของคนเรามิได้อยู่เพียงตอนที่ใครๆ เห็น แต่สำคัญที่ตอนจัดเก็บด้วย เก็บหรือดูแลไม่เป็น เสียเงินไปเท่าไรก็ไม่คุ้ม

วัดตัวให้พิถีพิถัน – การวัดตัวด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญ งานสูทที่ผลิตออกมาก็บ่งบอกได้ถึงความมีรสนิยมในตัวคุณ บุคลิกภาพดูดีเสื้อผ้าต้องดูดีด้วย องค์กรส่วนใหญ่จึงเลือกเฟ้นพิถีพิถันกับการคัดสรรบริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้ามาออกแบบและผลิตยูนิฟอร์มให้พนักงานในองค์กรดูน่าเชื่อถือเป็นที่ยอมรับของสังคม  สูทขายทั่วไปหรือสูทสั่งตัดที่เน้นราคาถูก วัสดุก็ต้องลดคุณภาพตามไป(ต้นทุนสินค้าราคาสูงขึ้นทุกชิ้น) คิดง่ายๆค่ะ ถ้าคนขายๆถูก ต้นทุนก็ต้องถูกตามๆกันไปแล้ว คุณภาพงานก็ต้องลดลงไปแน่นอนค่ะ  สูทรูปทรงไม่เป็นสูทใส่แล้วไม่ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น แต่ตรงกันข้ามทีเดียวเลยล่ะค่ะ(ขอบอก)

 

 

All Comments: 0 Pages: 1/0

รับออกแบบ ผลิตยูนิฟอร์มมาตรฐานสากล  โดยทีมงานผู้มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี : ยูนิฟอร์มพนักงาน ออฟฟิต ยูนิฟอร์มโรงแรม ยูนิฟอร์มโรงงาน ออกแบบยูนิฟอร์ม เสื้อช็อป โรงพยาบาล